Saturday, 6 April 2024

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ ราเมง

01 Feb 2023
358

ราเมง

หลายๆคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากับ ราเมง อาหารจานบะหมี่ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์จากประเทศญี่ปุ่นกันใช่ไหม แต่รู้หรือไม่? ที่จริงแล้ว ราเมงนั้นมีต้นกําเนิดมาจากประเทศจีนไม่ใช่ประเทศญี่ปุ่นแต่อย่างใด ที่น่าแปลกใจก็คือในปัจจุบันราเมนนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมอาหารของประเทศญี่ปุ่นไปเสียแล้ว สังเกตได้จากจํานวนร้านราเมงในประเทศญี่ปุ่นที่สามารถพบเจอได้ไม่ยากเย็นนักตามหัวถนนต่างๆ ดังนั้นเพื่อเพิ่มอรรถรสในการทานราเมนครั้งต่อไปของคุณ วันนี้เรา akatommychong จะขออาสาพาทุกคนไปรู้จักกับราเมงให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกสักนิดกับความรู้พื้นฐานเรื่องราเมง

ราเม็ง

ประวัติศาสตร์ของ ราเมง ในประเทศญี่ปุ่น

ประวัติศาสตร์ของราเมงในประเทศญี่ปุ่นนั้นต้องย้อนอดีตกลับไปถึงช่วงการปฏิรูปเมจิราวศตวรรษที่18 เป็นช่วงที่วัฒนธรรมจากประเทศจีนได้หลั่งไหลเข้ามาภายในประเทศญี่ปุ่น โดยหนึ่งในวัฒนธรรมการกินของชาวจีนที่ถูกนําเข้ามาด้วยก็คืออาหารประเภทเส้น ที่เรียกว่า ลาเมียน คําว่า ลาเมียน ในภาษาจีนมีความหมายว่า เส้นหมี่ จากคําว่า ลาเมียน จึงกลายมาเป็นภาษาญี่ปุ่นว่าราเมงในเวลาต่อมา

ช่วงแรกๆนั้นราเมงไม่ได้รับความนิยมเท่าไร อาจเป็นเพราะรสชาติไม่ถูกจริตของชาวญี่ปุ่นมากนักจนเมื่อประมาณหนึ่งร้อยปีก่อน ได้มีร้านราเมงแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Rai Rai Ken ในย่าน Asakusa ของโตเกียว ได้นําโชยุมาใช้เป็นส่วนผสมหลักของน้ําซุป เพื่อทําให้ราเมงถูกปากชาวญี่ปุ่นมากขึ้น และในเวลาไม่ช้าร้านนี้ก็เป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วประเทศ เรียกได้ว่าร้าน Rai Rai Ken คือจุดเริ่มต้นที่ทําให้ราเมงกลายเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่นก็ว่าได้

ส่วนประกอบและประเภทของราเมง

สําหรับส่วนประกอบหลักๆของราเมงนั้นจะมีอยู่ 3 อย่าง ด้วยกันคือ น้ําซุป เส้น และท็อปปิ้ง เริ่มกันที่ส่วนประกอบแรกกันก่อน

น้ำซุปราเมง

ส่วนประกอบที่หนึ่ง น้ําซุป

ถึงแม้ว่าราเมงจะมีมากมายหลายประเภทชวนให้เราสับสนงุนงงก็ตามแต่การแบ่งประเภทใหญ่ๆของมันไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด โดยซุปของราเมงจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท หลักๆ ดังนี้

  • ประเภทที่หนึ่งโชยุราเมง เป็นซุปราเมงที่ปรุงด้วยโชยุหรือซีอิ๊วญี่ปุ่นทําให้น้ําซุปมีสีออกน้ําตาลเล็กน้อย พร้อมส่งกลิ่นหอม พบเห็นได้ในร้านราเมงเกือบทุกแห่ง ด้วยความที่กระบวนการทําไม่ได้ซับซ้อนมากนัก เรียกได้ว่าโชยุราเมงเป็นราเมงพื้นฐานที่ทุกร้านต้องมี
  • ประเภทที่สอง ชิโอะราเมง อีกหนึ่งประเภทของซุปราเมงพื้นฐาน ชิโอะราเมงคือซุปราเมงที่ปรุงด้วยเกลือ ทําให้น้ําซุปมีลักษณะใส ซึ่งเกลือนั้นไม่เพียงแต่ให้รสเค็มเท่านั้นแต่มันยังมีคุณสมบัติที่ช่วยดึงรสชาติของวัตถุดิบอื่นๆที่ใช้มาประกอบเป็นซุป ให้รสชาติเข้มข้นขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย
  • ประเภทที่สาม มิโซะราเมง เป็นราเมงที่มีต้นกําเนิดมาจากแถบฮอกไกโดตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น เป็นซุปที่ปรุงด้วยมิโซะหรือเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น ทําให้น้ําซุปมีสีออกน้ําตาล หอมกลิ่นของเต้าเจี้ยว รสชาติเข้มข้น ด้วยความที่มิโซะนั้นเรียกได้ว่าเป็นเครื่องปรุงที่ได้รับความนิยมอย่างมากอยู่แล้วในประเทศญี่ปุ่น จึงทําให้ราเมงชนิดนี้เป็นที่นิยมและเข้าไปอยู่ในใจของใครหลายคนได้ไม่ยากนัก
  • ประเภทที่สี่ ทงคตสึราเมน เป็นราเมงที่นิยมอย่างมากทางตอนใต้ของประเทศ ทงคตสึราเมนคือน้ําซุปที่ได้จากการนํากระดูกหมู มาทุบให้แตก จากนั้นนํามาเคี่ยวให้เข้มข้นจนได้น้ําซุปกระดูกหมูที่มีลักษณะเป็นสีครีมเข้มข้นอัดแน่นไปด้วยรสชาติของกระดูกหมูที่เรียกได้ว่าหวานหอมจนไม่ต้องปรุงกันเลยทีเดียว

เส้นราเมง

ส่วนประกอบที่สอง เส้น

เส้นราเมงนั้นมีแป้งสาลีเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีสูตรเฉพาะที่ทําให้เส้นนั้นมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งความยาว ความหนา ความเหนียวนุ่ม รวมไปถึงวิธีการลวกแบบเฉพาะตัว เรียกได้ว่าสูตรใครสูตรมันและที่พิเศษไปมากกว่านั้น ในร้านราเมงแบบญี่ปุ่นบางร้าน คุณสามารถเลือกระดับความแข็งของเส้นได้ตั้งแต่แข็งมากไปยังนุ่มมาก ชอบแบบไหนก็สามารถเลือกได้ตามใจเลย

ท็อปปิ้งราเมง

ส่วนประกอบที่สาม ท็อปปิ้ง

ส่วนประกอบสุดท้ายที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในทีเด็ดของราเม็งก็ไม่ผิดนัก ซึ่งท็อปปิ้งมาตรฐานที่เรามักจะพบเห็นอยู่บ่อยๆมีดังนี้

  • ชาชูหรือหมูตุ๋นสไลด์บาง ส่วนมากจะทํามาจากส่วนท้องของหมูเพราะมีทั้งไขมันทั้งเนื้อได้รสสัมผัสที่มีมิติได้เคี้ยวเพลินไม่เลี่ยนและไม่แข็งจนเกินไป โดยชาชูถือได้ว่าเป็นแหล่งโปรตีนหลักๆของอาหารจานนี้
  • สําหรับผักต่างๆที่นํามาใส่ในราเมงนั้นมักจะเป็นผักที่หาได้ทั่วไปเพื่อเพิ่มวิตามินและไฟเบอร์ซึ่งผักที่เรามักจะพบเห็นได้บ่อยนั้น ได้แก่ ถั่วงอก ต้นหอม และหน่อไม้ดอง เป็นต้น
  • ไข่ต้มที่นํามาใส่ในราเมงนั้น มีอยู่หลากหลายประเภทตั้งแต่แบบยางมะตูมไปจนถึงแบบต้มสุกทั้งฟอง บางร้านมีการนําไข่ที่ต้มแล้วมาดองกับซีอิ๊วเพื่อเพิ่มรสชาติให้โดดเด่นกว่าไข่ต้มธรรมดา เรียกได้ว่าราเมงหนึ่งชามนั้น ให้สารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ กันเลยทีเดียว

ราเมง

หลังจากที่วัฒนธรรมราเมงได้แพร่หลายไปยังภูมิภาคต่างๆของประเทศก็ได้มีการคิดค้นนําวัตถุดิบมาดัดแปลงผสมผสานเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันก่อให้เกิดเป็นราเมงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นขึ้นมากมาย ส่วนมากจะมีชื่อเรียกราเมงชนิดนั้นๆตามถิ่นกําเนิด เช่น

  • ซัปโปโลราเมง เป็นราเมงที่มีความคิดสุดแหวก มีต้นกําเนิดมาจากข้างตอนเหนือของประเทศ จุดเด่นคือการใส่เนยและข้าวโพดหวานลงไปในน้ําซุปมิโซะนอกจากจะให้ความหอมมันแล้วยังช่วยเพิ่มพลังงานไว้ต่อสู้กับอากาศหนาวๆทางตอนบนของประเทศได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
  • คาโกชิมะ ราเมง ราเมงที่มีต้นกําเนิดในจังหวัดคาโกชิมะ ราเมงชนิดนี้ได้นําปลาซาดีนมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในน้ําซุปทําให้น้ําซุปที่ได้นั้นมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ต่างจากราเมงทั่วๆไป
  • ฮากาตะราเมง ราเมงขึ้นชื่อประจําเขตฮากาตะ จังหวัด Fukuoka โดยราเมงของที่นี่จะใช้ซุปทงคัตสึที่เคี่ยวนานเป็นพิเศษ ทําให้มีรสชาติเข้มข้นกว่าราเมงที่อื่นๆ

สนับสนุนโดย :: ufawallet