Tuesday, 26 March 2024

มันฝรั่ง สมบัติล้ำค่าของชาวอินคา สู่อาหารจานเด็ดทั่วโลก

03 Apr 2023
327

มันฝรั่ง

หลายคนน่าจะชอบรับประทานมันฝรั่ง ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งทอดกรอบร้อนๆ จิ้มซอสรสชาติเปรี้ยวหวาน หรือมันฝรั่งบดราดซอสเกรวี่แสนชุ่มฉ่ำ วันนี้ akatommychong จะพาไปรู้จักกับ มันฝรั่ง ตั้งแต่ต้นกำเนิดจนกลายมาเป็นอาหารแสนอร่อยไปทั่วโลก ติดตามได้ในมันฝรั่งสมบัติล้ำค่าของชาวอินคาซูอาหารจานเด็ดทั่วโลก

ความเป็นมาของ มันฝรั่ง

1. กำเนิดจากอินคา

ประวัติศาสตร์ของมันฝรั่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อราว 8000 กว่าปีก่อนคริสตกาล ณ ประเทศเปรู ซึ่งในขณะนั้นเป็นที่ตั้งของจักรวรรดิอินคา แห่งทวีปอเมริกาใต้ ชาวอารยธรรมได้ค้นพบพืชล้มลุกชนิดหนึ่งที่บริเวณทะเลสาบ Titicaca พืชชนิดนี้มีหัวอยู่ใต้ดิน รูปร่างกลมบ้าง รีบ้าง มีหลากหลายสีสัน ตั้งแต่เหลือง น้ำตาล แดง และม่วง สามารถรับประทานได้

มันฝรั่ง

ชาวอินคาจึงได้ทำไร่มันฝรั่งที่บริเวณหุบเขาและได้ขยายตัวไปถึงทะเลสาบติติกากา มันฝรั่งได้กลายมาเป็นอาหารจานหลักของชาวอินคา พวกเขาได้นำมันฝรั่งไปทำอาหารหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ นำไปถนอมอาหารโดยการขจัดน้ำออกจนแห้งสนิทเรียกว่าชูโย วิธีนี้ทำให้มันฝรั่งสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 10-15 ปี หรือ Tocosh ซึ่งนำมันฝรั่งไปผ่านกรรมวิธีต่างๆตั้งแต่การ ต้ม บด ย่าง แช่อิ่มในน้ำจนเหนียว และ Almidon de papa หรือแป้งมันฝรั่ง โดยนำมันฝรั่งมาบดจนกลายเป็นเยื่อและมีลักษณะชุ่มชื้น

นอกจากเป็นอาหารแล้วชาวอินคายังนำมันฝรั่งมาใช้ประโยชน์อีกมากมาย เช่น รักษาอาการบาดเจ็บ พยากรณ์อากาศ ชาวอินคายังเชื่อว่ามันฝรั่งนั้นทำให้คลอดบุตรได้ง่ายขึ้น มันฝรั่งจึงเป็นพืชที่ได้รับการเทิดทูนเป็นอย่างมากในวัฒนธรรมอินคา

มันฝรั่ง

2. สู่แผ่นดินยุโรป

เมื่อเวลาผ่านไปจนมาถึงปี 1532 ชาวสเปนได้เดินทางเข้ามายังแผ่นดินละตินอเมริกา โดยหวังว่าจะค้นพบทองคำ เพื่อนำกลับไปยังมาตุภูมิ แต่พวกเขานั้นกลับพบเพียงพืชหัวเล็กๆที่เรียกว่ามันฝรั่ง แต่เต็มไปด้วยสารอาหารและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย จึงนำมันฝรั่งกลับไปยังสเปนด้วย

ในช่วงศตวรรษที่ 16 มันฝรั่งได้กระจายไปยังประเทศต่างๆในยุโรปทั้ง สเปน อิตาลี เบลเยียม ฮอลแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย ฝรั่งเศส เยอรมนี ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส แต่ผู้คนยังลังเลที่จะรับประทานมันฝรั่งเพราะมีลักษณะที่คล้ายกับพืชตระกูลนัยเฉดที่มีพิษ และคัมภีร์ไบเบิลก็ไม่มีการกล่าวถึงมันฝรั่ง ชาวยุโรปจึงตีความว่ามันฝรั่งเป็นพืชของปีศาจ

ชาวฝรั่งเศสยังเชื่อว่ามันฝรั่งเป็นสาเหตุของการแพร่กระจายของโรคระบาด โดยเฉพาะโรคเรื้อนในยุคนั้น มันฝรั่งจึงมีฐานะเป็นเพียงอาหารสัตว์เท่านั้น จนกระทั่งพระเจ้า Frederick ที่ 2 แห่งอาณาจักรรัสเซีย ทรงมีพระบรมราชโองการให้ปลูกมันฝรั่ง เนื่องจากทรงเห็นว่ามันฝรั่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนได้

และในช่วงสงคราม 7 ปีระหว่าง ปี 1754 ถึง 1763 Antoine-Augustin Parmentier ที่เป็นเภสัชกรในกองทัพฝรั่งเศส ได้ถูกจับตัวโดยกองทัพรัสเซีย ระหว่างที่อยู่ในคุกเขาได้ประทังชีวิตด้วยมันฝรั่ง จึงได้รู้ว่ามันฝรั่งไม่มีพิษอย่างที่คิด เมื่อปาร์มองติเยถูกปล่อยตัวและกลับฝรั่งเศส เขาจึงได้ประชาสัมพันธ์ถึงประโยชน์ต่างๆของมันฝรั่ง และให้ดำเนินการทำไร่มันฝรั่งขึ้น

และเมื่อ Benjamin Franklin หนึ่งในผู้ก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางมาที่ฝรั่งเศสปามองติเยได้ทำอาหารจากมันฝรั่งเพื่อเสิร์ฟให้แฟรงคินได้รับประทาน ส่วนพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารีอองตัวเนต ก็ได้นำดอกมันฝรั่งมาประดับตกแต่งฉลองพระองค์ และพระมาลา หรือหมวก มันฝรั่งจึงได้กลายเป็นแฟชั่นในหมู่ชนชั้นสูง และก็กลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในยุโรป

มันฝรั่ง

3. ทุพภิกขภัยในไอริช

ในช่วงศตวรรษที่ 19 มันฝรั่งได้กลายเป็นอาหารจานหลักของประชาชนที่อาศัยอยู่ในประเทศไอซ์แลนด์ แต่สามารถปลูกได้ที่ไอร์แลนด์แค่ไม่กี่สายพันธุ์เท่านั้น แต่แล้วเมื่อปี 1845 ได้เกิดโรคใบไหม้ในมันฝรั่ง ซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อราไอโอโมซิสหรือราน้ำ โดยเริ่มระบาดในแถบอเมริกาเหนือ และได้แพร่กระจายไปทั่วยุโรป รวมถึงไอร์แลนด์ด้วย

ชาวไอริชที่ประทังชีวิตด้วยมันฝรั่งเป็นหลัก จึงได้รับผลกระทบนี้ไปอย่างเต็มๆ เพราะไม่มีอาหารบริโภคและด้วยสภาพอากาศที่เย็นและชื้นของไอซ์แลนด์ก็ยิ่งทำให้เชื้อราเติบโตและแพร่กระจายรวดเร็วมากขึ้นไปด้วย รัฐบาลไอร์แลนด์จึงยื่นถวายฏีกาไปยังสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียและพยายามนำเข้าธัญพืชมาจากสหรัฐอเมริกา

แต่เนื่องจากกฎหมายข้าวโพดที่บังคับใช้ในสหราชอาณาจักรเพื่อความมั่นคงของอาหารภายในชาติ ทำให้ธัญพืชที่นำเข้ามาจากต่างประเทศนั้นมีราคาแพงและยังส่งผลกระทบต่อชาวไร่ ชาวนา ที่ยังต้องเช่าที่ดินสำหรับทำการเกษตร เพราะไม่สามารถเพิ่มจำนวนผลผลิตได้ จึงไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเช่าที่ดินได้ ทำให้ถูกเจ้าของที่ดินไล่ออก

ยิ่งไปกว่านั้นชาวไอริชหลายพันคนล้มตายเพราะความหิวโหย ซึ่งจำนวนกว่าร้อยเป็นโรคทุพโภชนาการ ในเหตุการณ์ทุพภิกขภัยครั้งนี้ คร่าชีวิตชาวไอริชไปกว่า 1 ล้านคน ชาวไอริชบางส่วนนั้นไม่อาจทนกับความยากจนและภัยหิวโหยในประเทศของตนเองได้ จึงอพยพไปยังประเทศอื่น โดยเฉพาะเกาะบริเตนใหญ่และทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งคิดเป็นจำนวนเกือบ 2 ล้านคน

เหตุการณ์นี้เป็นการอพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาวไอริช จนกระทั่งปี 1850 ก็เริ่มมีการนำเข้าอาหารมาจากต่างประเทศ และไอร์แลนด์ก็สามารถกลับมาปลูกพืชพันธุ์ต่างๆได้อีกครั้ง ในที่สุดทุพภิกขภัยในครั้งนี้ก็สิ้นสุดลงเมื่อปี 1852 อย่างไรก็ตามโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ก็ส่งผลให้จำนวนประชากรในไอร์แลนด์นั้นลดจำนวนลงไปมาก ทั้งผู้ที่เสียชีวิตและผู้ที่อพยพไปยังดินแดนอื่น

มัน ฝรั่ง

4. จานอร่อยทั่วโลก

มีอาหารมากมายทั่วโลกที่มีส่วนประกอบหลักเป็นมันฝรั่ง เช่น มันฝรั่งทอด หรือที่หลายคนเรียกว่า เฟรนช์ฟรายส์ ซึ่งต้นกำเนิดของมันฝรั่งทอดมาจากเบลเยี่ยม โดยแต่เดิมชาวบ้านมักไปตกปลาที่แม่น้ำเมอร์เพื่อนำมารับประทานเป็นปลาทอด แต่ในฤดูหนาวน้ำในแม่น้ำก็กลายเป็นน้ำแข็ง จึงไม่สามารถตกปลาได้ ชาวบ้านจึงนำมันฝรั่งมาหั่นเป็นแท่งแล้วทอดเพื่อรับประทานแทนปลาทอด เรียกว่าปอมฟิช

ส่วนสาเหตุที่เรียกมันฝรั่งทอดว่าเฟรนช์ฟรายส์นั้นมาจากทหารอเมริกัน ที่ประจำการรบที่เบลเยียมในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เข้าใจว่ามันฝรั่งทอดเป็นอาหารของฝรั่งเศส เนื่องจากชาวเบลเยียมพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ พวกเขาจึงเรียกมันฝรั่งทอดว่าเฟรนช์ฟรายส์ ซึ่งมีความหมายว่าอาหารทอดของชาวฝรั่งเศส

มันฝรั่งทอดได้กลายเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารตะวันตกมากมาย ได้แก่ ฟิชแอนด์ชิพ หรือปลากับมันฝรั่งทอด หรืออาหารจานหลักของชาวอังกฤษ ปูตินซึ่งเป็นมันฝรั่งทอดราดซอสเกรวี่และชีส มีต้นกำเนิดมาจากชาวแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ที่เมืองควิเบก ประเทศแคนาดา

นอกจากมันฝรั่งทอดแล้วก็ยังมีการนำมันฝรั่งมาบดให้ละเอียด ปรุงรสแล้วรับประทานเรียกว่ามันบด โดยได้มีการนำมันบดมาปรุงอาหารมากมาย เช่น โคเก้ อาหารฝรั่งเศสที่เป็นมันฝรั่งบดผสมกับเนื้อสัตว์หรือผัก ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของอาหารญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Korokke

Aligot อาหารฝรั่งเศสที่เป็นมันฝรั่งบดผสมกับชีส จึงมีลักษณะที่ยืดเหมือนกับชีส นอกจากนี้ยังมีมันฝรั่งในรูปแบบอื่นๆ ได้แก่ ตอติญา ไข่เจียวของสเปนที่ใส่มันฝรั่งเป็นส่วนประกอบหลัก แฮชบราวน์อาหารเช้าแบบตะวันตกที่เป็นมันฝรั่งหั่น หรือสับนำไปทอดแล้วโรยเกลือกับพริกไทย

ส่วนในทวีปเอเชียนั้นก็มีอาหารมากมายที่มีส่วนประกอบของมันฝรั่ง โดยเฉพาะอาหารอินเดีย ได้แก่ Aloo tikki มันฝรั่งบดปรุงรสด้วยเครื่องเทศ ปั้นเป็นชิ้นกลมแบนแล้วนำไปทอด Panipuri แป้งทอดทรงกลมเจาะรู ข้างในมีไส้เป็นมันฝรั่งปรุงรส และราดซอสมาซาลากับน้ำมะขามเปียก ซาโมซ่าแป้งห่อเป็นรูปสามเหลี่ยมสอดไส้มันฝรั่ง และอาหารของประเทศอื่นๆ เช่น แกงมัสมั่นอาหารไทยที่มีส่วนประกอบของไก่หรือเนื้อและมันฝรั่ง และนิคุจากะซึ่งเป็นเนื้อตุ๋นมันฝรั่งของญี่ปุ่น

นอกจากความอร่อยแล้วมันฝรั่งยังเต็มไปด้วยสารอาหารมากมาย เช่น คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุ วิตามิน มันฝรั่งจึงกลายเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญอย่างหนึ่งของมนุษยชาติมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

สนับสนุนโดย fun88m