ถ้าพูดถึงแบรนด์อาหารฟาสต์ฟู้ดเจ้าใหญ่ในโลก เราเชื่อว่า McDonald’s ต้องเป็นหนึ่งในแบรนด์อันดับต้นๆที่ทุกคนน่าจะนึกถึง ด้วยรสชาติอาหารและรูปแบบร้านที่เป็นเอกลักษณ์บวกกับจํานวนร้านค้าที่มีมากกว่า 37,000 สาขาทั่วโลก แถมแต่ละที่ก็อยู่ในดีๆทั้งนั้น ถึงแม้แมคโดนัลด์จะเป็นแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่เราคิดว่ามันก็ยังมีเรื่องต่างๆอีกมากที่คุณอาจยังไม่เคยรู้ วันนี้เรา akatommychong จึงรวบรวม 10 เรื่องของ McDonald’s ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนมาให้ได้ชมกัน มีเรื่องอะไรบ้างนั้น ไปชมพร้อมกันเลย
เรื่องจริงของ McDonald’s
1. ในตอนแรกแมคโดนัลด์ไม่ได้ขายแฮมเบอร์เกอร์
เราทุกคนอาจจะรู้จักแมคโดนัลด์ว่าเป็นร้านขายแฮมเบอร์เกอร์ แต่ในตอนเริ่มแรกนั้นมันไม่ใช่ ในช่วงปี 1930 สองพี่น้อง Dick และ Mac ได้กู้เงินมาทําธุรกิจร้านอาหารในเมืองมอนโดเวีย รัฐแคลิฟอร์เนีย ร้านของพวกเขามีชื่อว่า Air Dome และเน้นขายอาหารประเภทฮอทดอก
ต่อมาในปี 1940 พวกเขาได้ย้ายร้านมาแถบ San Bernardino และเปลี่ยนชื่อร้านเป็น McDonald’s Bar bq แต่ร้านก็ไม่ได้ประสบความสําเร็จอย่างที่ทั้งสองตั้งใจไว้ จนมาในช่วงปี 1948 ทั้งสองจึงปิดกิจการลงชั่วคราว เพื่อหาไอเดียใหม่ใหม่และเงินลงทุนเพิ่มเติมและนั่นก็เป็นที่มาของแมคโดนัลด์ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้
แมคโดนัลด์เปิดบริการขึ้นอีกครั้งโดยเป็นร้านอาหารที่เน้นขายแฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ และมิลค์เชค พร้อมกับระบบการจัดการร้านที่เรียกว่า Speedy System ซึ่งเป็นระบบที่ถูกดัดแปลงมาจากระบบสายพานการผลิตรถยนต์และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เราได้รู้จักกับฟาสต์ฟู้ดแล้วมันก็กลายเป็นบรรทัดฐานของอุตสาหกรรมฟาสท์ฟู้ดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
2. แฮมเบอร์เกอร์ ดีต่อสุขภาพมากกว่าซีซ่าร์สลัด
ถ้าถามว่าจั๊งฟู้ดกับสลัดอะไรดีต่อสุขภาพมากกว่ากันเราหลายคนอาจตอบว่าสลัดแน่นอน แต่เดี๋ยวก่อนในความเป็นจริงแล้ว มันไม่แน่เสมอไป คุณควรถามต่อว่าสลัดที่ว่านี่สลัดอะไร เพราะแฮมเบอร์เกอร์ธรรมดาจากแมคโดนัลด์นั้นให้พลังงานราวq 253 กิโลแคลอรี และมีไขมันอยู่ราวๆ 7.7 กรัม ในขณะที่ซีซาร์สลัดจะให้พลังงานประมาณ 425 กิโลแคลอรี และมีไขมันอยู่ราวๆ 21.4 กรัม ซึ่งมากกว่าแฮมเบอร์เกอร์อยู่เกือบเท่าตัว
แม้ว่าเรารวมเฟรนฟรายเข้าไปด้วยแล้ว ชุดแฮมเบอร์เกอร์จะให้พลังงานราวๆ 459 กิโลแคลอรี มากกว่าซีซ่าร์สลัดนิดหน่อย แต่มีไขมันเพียง 16.7 กรัม ซึ่งก็ยังน้อยกว่าซีซ่าสลัดอยู่ดี รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าคุณกําลังลดความอ้วนล่ะก็อย่าหนีเบอร์เกอร์ไปเจอซีซ่าสลัดนะ เพราะมันอาจไม่ได้ช่วยอะไรเลย
3. มีคนจบปริญญาตรีสาขาแฮมเบอร์เกอร์วิทยา ราวๆ 8 หมื่นคน
ในปี 1961 แมคโดนัลด์ได้เปิดมหาลัยเบอร์เกอร์ขึ้นที่รัฐอิลินอย โดยหลักสูตรนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเทรนพนักงานและเจ้าของสาขา ทั้งนี้ก็เพื่อส่งเสริมคุณภาพของอาหารและบริการไปจนถึงความสะอาดของร้านแมคโดนัลด์ให้เป็นมาตรฐานเหมือนกันทุกที่นั่นเอง และในช่วงปี 60 ที่มหาลัยเพิ่งเปิดนั้น ผู้ที่จะเข้าทํางานในร้านแมคโดนัลด์ต้องจบหลักสูตรนี้ก่อน ตั้งแต่ช่วงนั้นจนถึงปัจจุบัน จึงมีผู้ที่ได้เข้าเรียนและจบหลักสูตรเบอร์เกอร์วิทยาไปแล้วราวๆ 8 หมื่นคน ใครที่ชอบทานแฮมเบอร์เกอร์แล้วไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรดี สาขานี้อาจจะไม่เลวก็ได้นะ
4.แมคโดนัลด์ไม่เน่าง่ายๆ
ในปี 2010 Sandy Davi ช่างภาพที่อาศัยอยู่ในนิวยอร์กได้ทําการทดลองที่เรียกว่าแฮปปี้นิวโปรเจกต์ โดยเธอได้นําเอาฟาสต์ฟู้ดจากหลายๆแบรนด์มาเก็บไว้ในโหลแก้วเป็นเวลากว่า 5 เดือน โดยไม่ได้ใส่ในตู้เย็นเพื่อที่จะดูความเปลี่ยนแปลงของอาหารนั้น ในขณะที่ฟรายของ KFC มีราขึ้นเต็มไปหมด แต่แฮมเบอเกอร์และฟรายของแมคโดนัลด์นั้น ยังดูเหมือนว่ามันกินได้ มันไม่มีราขั้นแค่ดูแห้งๆไปเท่านั้น
นักโภชนาการอธิบายว่ามันอาจเป็นไปได้ที่แมคโดนัลด์ใช้โซเดียมปริมาณมากในการปรุงอาหารหรืออาหารของแมคโดนัลด์มีความชื้นอยู่น้อย ซึ่งเป็นผลจากขั้นตอนการปรุงทําให้เชื้อแบคทีเรียไม่สามารถเติบโตได้ ดังนั้นมันจึงแค่กลายเป็นเบอร์เกอร์แห้งๆแทนที่จะเน่าเสียนั่นเอง
5. Bill Gates กินแมคโดนัลด์ได้ฟรีตลอดชีพ
เพราะ บิล เกตส์ มีบัตรทองหรือแมคโดนัลด์โกลด์การ์ด อันที่จริงแล้วไม่ได้มีแค่ บิล เกตส์ ที่มีอภิสิทธิ์ในระดับแบบนี้ ยังมีมหาเศรษฐีอีกหลายคนที่มีโกลด์การ์ดเหมือนกัน อย่างเช่น Warren Buffett หรือ Robrow แต่ความพิเศษของโกลด์การ์ดที่ บิล เกตส์ มีก็คือมันเป็นแบบเวิลด์ไวด์แพส คือทรานส์แมคโดนัลด์ฟรีที่ไหนก็ได้ทั่วโลก ในขณะที่บัตรทองของคนอื่นๆอาจจะใช้ได้แค่ในบางรัฐหรือบางเมืองเท่านั้น
6. Happt Meal อาจช่วยคุณลดน้ําหนักได้
จากการศึกษาของนักจิตวิทยาพบว่า คนเรายินดีที่จะได้ปริมาณอาหารลดลงทั้งที่มันราคาเท่าเดิม ตราบใดที่มันมาพร้อมกับของรางวัลอะไรบางอย่าง เพราะรางวัลเหล่านั้นจะไปกระตุ้นสมองส่วนเดียวกันกับการที่เราได้รับชุดอาหารปริมาณปกติ นอกจากนั้นการวิจัยยังพบอีกว่าคนที่เลือกซื้อชุดอาหารปริมาณน้อยแต่มาพร้อมของรางวัลก็ไม่ได้กินอาหารอย่างอื่นเพิ่มในวันนั้น ดังนั้นมันแปลว่าถ้าคุณกําลังลดน้ําหนักแต่อยากกินแมคโดนัลด์ใจจะขาดจนทนไม่ได้ คุณก็ลอง Happt Meal ดูนะ อาจจะพอช่วยได้บ้าง
7. แมคโดนัลด์เป็นผู้แทนจําหน่ายของเล่นที่มียอดขายมากที่สุดในโลก
ต่อเนื่องจากข้อที่แล้วแมคโดนัลด์ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทที่ขายเบอร์เกอร์มากที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นบริษัทที่ขายของเล่นได้มากที่สุดในโลกอีกด้วย ก็จากแฮปปี้นิวนั่นแหละโดยแมคโดนัลด์ขายของเล่นได้ราวๆ 1,500 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งมากกว่าปริมาณที่บริษัทขายของเล่นระดับโลกขายได้ด้วยซ้ํา
8. คุณสามารถจัดงานแต่งงานในแมคโดนัลด์ได้
คุณคงเคยเห็นเด็กๆที่จัดงานวันเกิดที่แมคโดนัลด์พร้อมกับ Happt Meal และสนุกไปพร้อมกับตัวตลก Ronald McDonald แต่รู้ไหมว่าไม่ใช่เพียงแค่งานวันเกิดเท่านั้น หากคุณเป็นสาวก McDonald’s ตัวจริง คุณสามารถเลือกที่จะแต่งงานกันในแมคโดนัลด์ก็ยังได้ โดแมคโดนัลด์ที่ให้บริการงานเลี้ยงแต่งงานนี้ตั้งอยู่ในประเทศฮ่องกง นอกจากจะทําพิธีแต่งงานในร้านได้แล้ว คุณก็ยังสามารถสั่งชุดอาหารเช้าฟรายหรือนักเกตมาทานพร้อมกับแขกของคุณได้อีกด้วย นี่ถ้าไม่ใช่สาวกแมคโดนัลด์ตัวจริงคุณก็ต้องพบรักกันที่นี่แน่ๆ
9. ที่สวีเดนมีสาขาแมคโดนัลด์ที่เป็น Ski-true
หลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์ซื้อแมคโดนัลด์แบบ Drive thru ใช่ไหม ที่เราแค่ขับรถเข้าไปสั่งอาหารผ่านตู้ที่เหมือนโทรศัพท์ จ่ายตังค์ แล้วก็ไปรอรับอาหารจากหน้าต่างถัดไปได้เลย ไม่ต้องลงจากรถ สะดวกสุดๆไปเลย และเพราะด้วยความสะดวกนี้เอง ทําให้เกิดแมคโดนัลด์สาขาสกีทรูในประเทศสวีเดนขึ้น โดยแมคโดนัลด์สาขานี้ตั้งอยู่ในสกีรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ทั้งนี้ก็เพื่อบริการนักสกีผู้หิวโหยทั้งหลายที่ไม่อยากเสียเวลาสนุกไปนั่งในร้านอาหารแต่แค่อยากทานอะไรเร็วๆ แมคโดนัลด์ก็เลยจัดสาขาสกีทูให้ซะเลย อิ่มครบจบมื้อแบบไม่ต้องถอดรองเท้าสกรีนเลยด้วยซ้ําสะดวกจริงๆ
10. แมคโดนัลด์สาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก
McDonald’s สาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่เมืองออร์แลนโด ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยตัวอาคารสูงถึง 14 เมตร และมีพื้นที่กว้างกว่า 1700 ร้อยตารางเมตร มีมาสคอตโรนัลด์ แมคโดนัลด์ สูงถึง 9 เมตร พร้อมส่วนที่เป็นสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่แถมยังเสิร์ฟเมนูพิเศษอย่าง วาฟเฟิล แดรฟ และพิซซ่าอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ที่แฟนตัวจริงของแมคโดนัลด์น่าจะต้องไปเยี่ยมสักครั้ง
สนับสนุนโดย :: ufabet356th