วันนี้เรา akatommychong มีข้อมูลดีๆสาระดีๆมาฝากกันอีกแล้ว วันนี้เราจะอยู่ในหัวข้อ อาหารบำรุงสมอง บำรุงร่างกายในยามที่เรารู้สึกเศร้าหมองและหดหู่ อาหารที่ช่วยทําให้เราคลายเครียดได้ วันนี้เราก็ได้รวบรวมข้อมูลมาฝากกันว่าจริงๆแล้วอาหารเหล่านี้ก็มีอยู่ในชีวิตประจําวันของเราทั่วๆไปแล้วก็หาทานง่ายมากๆด้วย
ก่อนที่ความรู้สึกเศร้าหมองจะครอบครองทั้งชีวิตและก็วิญญาณของเราก็อยากให้ทุกๆคนหันมาดูแลสุขภาพร่างกายด้วยอาหารเพื่อสุขภาพกัน แม้ว่าจะเกิดอะไรที่ไม่ค่อยจะสร้างความสุขสบายใจให้แก่เราในบางครั้งในชีวิตคนเราก็จะมีมากมาย แต่ถึงกระนั้นเราจะปล่อยให้ความรู้สึกหดหู่หม่นหมองมานําหน้าชีวิตของเราก็คงไม่ดีแน่ๆ วันนี้เรามี 9 อาหารบํารุงร่างกายในยามที่เรารู้สึกหม่นหมองเศร้าอ่อนแอแล้วก็หดหู่มาฝากทุกคน
อาหารบำรุงสมอง ในยามที่เรารู้สึกหม่นหมองเศร้าและอ่อนแอ
1. ดาร์กช็อกโกแลต
ดาร์กช็อกโกแลต มีการศึกษาพบว่าดาร์กช็อกโกแลตจะช่วยเพิ่มความรู้สึกเคลิบเคลิ้มให้กับคนที่กินเข้าไป และด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่มากในดาร์กช็อกโกแลตก็จะช่วยกระตุ้นให้ผนังหลอดเลือดขยายตัว ทำให้เลือดไหลเวียนสะดวกมากขึ้น จึงทําให้รู้สึกผ่อนคลายหลังทานช็อกโกแลตเข้าไปซึ่งจากงานวิจัยก็แนะนําให้กินดาร์กช็อกโกแลตหนึ่งบาร์เล็กๆติดต่อกันเป็นเวลาสองสัปดาห์เท่านี้ก็จะช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดในร่างกายได้แล้ว
2. โกโก้
โกโก้ไม่เพียงแต่มีรสชาติที่ใครๆต่างก็ชื่นชอบ แต่ก็ยังทําให้คนที่รับประทานเข้าไปนั้นมีความสุขอีกด้วย นักโภชนาการบําบัดและผู้เขียนหนังสือ is you way to happiness ได้อธิบายไว้ว่า ในโกโก้นั้นมีสารประกอบมากกว่า 300 ชนิด ที่ส่งผลกระทบในแง่การหลั่งสารเคมีในสมองของเราอีกทั้งสารเคมีบางชนิดนั้นยังช่วยเพิ่มระดับเอ็นโดฟินส์และเมลาโทนินในสมองของเราด้วยซึ่งเป็นสารที่ทําให้เราอารมณ์ดี ดังนั้นหากคุณไม่ชอบทานช็อกโกแลตแบบชนิดแท่งก็ลองเปลี่ยนมาจิบเครื่องดื่มเป็นโกโก้ร้อนก็จะช่วยให้อารมณ์ดีมากขึ้นได้
3. โยเกิร์ต
โยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวการศึกษาจากเนเธอร์แลนด์พบว่าที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์อย่างโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวมีส่วนช่วยปรับอารมณ์ของคนได้ เนื่องจาก โพรไบโอติกส์ ในอาหารเหล่านี้จะช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในลําไส้ ทําให้อารมณ์ของเราคงที่และมีอารมณ์ที่ดีขึ้น เพราะเจ้าแบคทีเรียในลําไส้เหล่านี้มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเรามากๆ
4. เห็ด
เห็ดแทบทุกชนิดมีธาตุซีลีเนียมสูงมากๆ ซึ่งนักวิจัยก็บอกว่าธาตุชนิดนี้เป็นธาตุอาหารที่ช่วยกระตุ้นฮอร์โมนแห่งความสุขได้ พร้อมกันนั้นก็ลดอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลายได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกกดดัน ความกลัว หรือความกังวล อีกทั้งในเห็ดยังเป็นแหล่งวิตามินดีจากธรรมชาติด้วย ซึ่งผ่านการศึกษามาแล้วว่าช่วยกระตุ้นฮอร์โมนความสุขให้กับมนุษย์ได้
5. ปลาแซลมอนหรือปลาทูน่า
ปลาแซลมอนหรือปลาทูน่า ในเนื้อปลาบางชนิดอย่างปลาแซลมอนหรือปลาแฮร์ริ่ง หรือปลาซาร์ดีน หรือทูน่า มีกรดไขมันที่ดีต่อสุขภาพ อย่างเช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ นอกจากนี้กรดไขมันโอเมก้า 3 นี้ ยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็เสริมสร้างมวลความรู้สึกที่มีความสุขและความพึงพอใจต่างๆได้อีกด้วย
6. ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอย่างผลไม้ตระกูลส้ม มะนาว หรือเกรปฟรุต เป็นแหล่งของวิตามินซี ซึ่งเป็นวิตามินที่จะช่วยดูดซึมธาตุเหล็กในการลําเลียงออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย ทําให้ร่างกายเกิดความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าดับความรู้สึกเพลียหรือหมดอารมณ์เศร้าๆได้ อีกทั้งกลิ่นของผลไม้รสเปรี้ยวยังช่วยกระตุ้นสมองให้เรารู้สึกดีขึ้นด้วย
7. ถั่วเปลือกแข็ง
ถั่วเปลือกแข็ง ไม่ว่าจะเป็นถั่วพีแคน ถั่ววอลนัต หรือถั่วอัลมอนด์ ก็จะช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ เพราะในถั่วเปลือกแข็งเหล่านี้มี กรดอะมิโนทริปโตเฟน ซึ่งมีความจําเป็นต่อสารเมลาโทนินสารสื่อประสาทที่ช่วยลดภาวะซึมเศร้าและทําให้อารมณ์ดีขึ้น นอกจากนี้ถั่วเปลือกแข็งยังมีแมกนีเซียมแล้วก็แร่ธาตุที่มีความสําคัญต่อสภาวะอารมณ์อีกด้วย
โดยการศึกษาของวารสารบุ๊กต่างๆที่เกี่ยวกับพวกถั่วเมล็ดเปลือกแข็งพบว่าการที่เรารับประทานแมกนีเซียมไม่เพียงพอก็จะทําให้เกิดอาการอ่อนเพลีย แรงดันในกล้ามเนื้อสูงขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ นอนไม่หลับ เกิดอาการอยู่ไม่เป็นสุข และทําให้เกิดความวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้าได้ ดังนั้นจึงควรจะรับประทานถั่วเปลือกแข็งให้มากขึ้น โดยอาจจะรับประทานเป็นของว่างหรือปรุงเป็นอาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อนั้นก็แล้วแต่เราจะสะดวกได้เลย
8. ไข่
ในไข่นั้นมีกรดอะมิโนที่สําคัญอยู่มากมายโดยเฉพาะทริพโตเฟนและไทโรซีน ซึ่งกรดอะมิโนเหล่านี้ทําหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ทริพโตเฟนยังเป็นสารที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไปช่วยสร้างเซโรโทนินทําให้เราอารมณ์ดีและยังเปลี่ยนเป็นสารเมลาโทนินที่ช่วยในการนอนหลับให้ดีมากขึ้นด้วย
9. กล้วย
กล้วยเมื่อเรารู้สึกเครียดหรืออยู่ในโหมดภาวะซึมเศร้า ความดันเลือดจะพุ่งขึ้นสูงกว่าปกติ ซึ่งกระบวนการก่อความรู้สึก ความเครียด หรือวิตกกังวลตรงนี้ โพแทสเซียมที่มีอยู่ในกล้วยก็จะช่วยบรรเทาความดันเลือดกลับเข้าสู่ภาวะสงบได้ในทางโภชนาการจึงนับว่ากล้วยนั้นเป็นยาระงับประสาทแบบธรรมชาติอีกทางหนึ่งด้วย
คงไม่มีใครอยากจะโศกเศร้าเสียใจใช่ไหมแต่ในเมื่อความรู้สึกเกิดขึ้นกับเราแล้ว หน้าที่ของเราก็คือต้องประคับประคองตัวเองทั้งทางด้านจิตใจและร่างกายเพื่อผลักดันให้เราดําเนินชีวิตต่อไปด้วยร่างกายแล้วก็จิตใจที่เข้มแข็งและอีกอย่างที่อยากจะฝากเอาไว้ก็คือใจเราอ่อนแอแล้วก็อย่าปล่อยให้ร่างกายของเราอ่อนแอตามไปด้วย
ชีวิตคนเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเครียดได้เลย เพราะว่าตั้งแต่ตื่นนอนมายันเข้านอนนั้น เราต้องเจอกับสภาวะความกดดันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือว่าสภาวะภายนอกที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ก็อยากให้ทุกคนหันมามองแล้วก็ใส่ใจสุขภาพร่างกายของเรา แล้วก็สุขภาพจิตของเรามากขึ้น
เพราะว่าตัวเราเองจะเป็นเพื่อนของตัวเองได้ดีที่สุด ไม่มีใครรู้จักตัวเราได้มากกับเรารู้จักตัวเองใช่ไหม เรารู้สึกยังไง เราต้องการอะไร ไม่จําเป็นต้องให้ใครมาหยิบยื่นความสุขให้เราหรือว่าไม่ต้องรอให้ใครมาดูแลเรา เริ่มที่ตัวเองเลย ความสุขหาได้ด้วยตัวเองแล้วก็สุขภาพร่างกาย ถ้าเราไม่ทํา เราไม่ดูแลตัวเอง เราไม่เริ่มดูแลตัวเอง แล้วเราจะรอให้ใครมาดูแลเราใช่มั้ย เราก็ต้องเห็นคุณค่าของตัวเราเองก่อนด้วยแล้วทุกอย่างก็เริ่มต้นจากตัวเราวันนี้ก็ขอเป็นกําลังใจให้กับทุกๆท่านนะคะ
สนับสนุนบทความโดย :: slot999